- สัตว์น้ำประเภทใดบ้างที่อิสลามอนุมัติให้นำมาปรุงแต่งเป็นอาหารได้?
- เกี่ยวกับเรื่องนี้โองการในพระคัมภีอัลกุรอานและฮาดิษจากท่านนบี(ศ็อลฯ)กล่าวไว้อย่างไร?
ฮุก่มสัตว์น้ำในพระคัมภีร์อัลกุรอาน
โองการที่ 1
أُحِلَّ لَكُمْ صَيْدُ الْبَحْرِ...
“ได้ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้าทั้งหลายแล้วซึ่งสัตว์ล่าในทะเล...” (อัลมาอิดะห์ /96)
โองการที่ 2
وَهُوَ الَّذِي سَخَّرَ الْبَحْرَ لِتَأْكُلُوا مِنْهُ لَحْمًا طَرِيًّا…
“และพระองค์คือผู้ทรงทำให้ทะเลเป็นที่อำนวยความสะดวก เพื่อพวกเจ้าจะได้กินเนื้อนุ่มสดใหม่จากมัน..”(อัลนะห์ลิ/16)
จากสองโองการข้างต้นนี้คำตรัสของพระองค์อัลลอฮ์(ซบ.)มิได้จำกัดประเภทของสัตว์น้ำว่า สิ่งใดอนุมัติและสิ่งใดไม่อนุมัติเพื่อเป็นอาหาร ทว่าพระองค์ทรงตรัสไว้ในความหมายกว้างๆ ในขณะที่ความเป็นจริงแล้วทุกๆสิ่งที่เป็นสัตว์น้ำหรือทุกๆสิ่งที่อยู่ในน้ำหรือท้องทะเลใช่ว่าสามารถจะนำมาเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ได้ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องศึกษาถึงรายละเอียดและย้อนดูฮาดิษของท่านรอซูล(ศ็อลฯ)และบรรดาอิม่ามมะอฺซูม(อ)
ประเภทของสัตว์น้ำที่อนุมัติในฮาดิษ
ฮาดิษที่ 1
وَ عَنِ الْحُسَیْنِ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنْ مُعَلَّى بْنِ مُحَمَّدٍ عَن الْحَسَنِ بْنِ عَلِیٍّ عَنْ حَمَّادِ بْنِ عُثْمَانَ قَالَ: قُلْتُ لِأَبِی عَبْدِ اللَّهِ (ع)
جُعِلْتُ فِدَاکَ الْحِیتَانُ مَا یُؤْکَلُ مِنْهَا قَالَ مَا کَانَ لَهُ قِشْرٌ الْحَدِیثَ
รายงานจากฮุเซนบินมุฮัมหมัด จากมุอัลลาบินมุฮัมหมัด จากฮะซันบินอลี จากฮัมมาดบินอุษมานกล่าวว่า “ฉันได้ถามท่าน อะบาอับดิลลาฮ์ (อ) ถึงประเภทของสัตว์น้ำที่สามารถนำมาเป็นอาหารได้ว่ามันเป็นเช่นไร? ท่านตอบว่า คือประเภทของสัตว์น้ำที่มีเกล็ดเพียงเท่านั้น”
(หนังสือ วะซาอิลุซชีอะห์ 24/128)
ฮาดิษที่ 2
عَنْ حَنَانِ بْنِ سَدِیرٍ قَالَ: أَهْدَى فَیْضُ بْنُ الْمُخْتَارِ إِلَى أَبِی عَبْدِ اللَّهِ (ع) رَبِیثَا فَأَدْخَلَهَا عَلَیْهِ وَ أَنَا عِنْدَهُ فَنَظَرَ إِلَیْهَا
فَقَالَ هَذِهِ لَهَا قِشْرٌ فَأَکَلَ مِنْهَا وَ نَحْنُ نَرَاهُ ...
จากฮันนานบินสะดีรกล่าวว่า “ขณะที่ฉันนั่งอยู่กับท่านอะบาอับดิลลาห์(อ)นั้น สาวกผู้หนึ่งนามว่า ฟัยฏ์บินมุคตารได้นำอาหารประเภทกุ้งฟอยตัวเล็กๆมาให้กับท่านอิม่าม(อ)และพร้อมกันนั้นเขาได้ถามอิม่ามถึงการเป็นฮะล้าลหรือฮะร่ามของสิ่งนั้น ท่านอิม่ามมองไปยังสิ่งที่อยู่ในภาชนะและกล่าวว่า มันเป็นประเภทของสัตว์น้ำที่มีเกล็ด และท่านอิม่ามก็ได้ทานมันซึ่งเราก็ประจักษ์ด้วยสายตาของเราในขณะนั้น..”(หนังสือวะซาอิลุซชีอะห์ 24/140)
เจ้าของหนังสือวะซาอิลุซชีอะห์ได้อธิบายเพิ่มเติมท้ายฮาดิษบทนี้ว่า (الرَّبِیثَا) ในฮาดิษนั้นหมายถึงสัตว์น้ำประเทภกุ้งตัวเล็กๆ(กุ้งฟอย)นั้นเอง.
ฮาดิษที่ 3
بِإِسْنَادِهِ عَنِ الْحَسَنِ الصَّفَّارِ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عِیسَى بْنِ عُبَیْدٍ عَنْ یُونُسَ بْنِ عَبْدِ الرَّحْمَنِ عَنْ أَبِی الْحَسَنِ (ع)
قَالَ: قُلْتُ لَهُ جُعِلْتُ فِدَاکَ مَا تَقُولُ فِی أَکْلِ الْإِرْبِیَانِ قَالَ فَقَالَ لِی لَا بَأْسَ بِذَلِکَ وَ الْإِرْبِیَانُ ضَرْبٌ مِنَ السَّمَکِ
قَالَ قُلْتُ: قَدْ رَوَى بَعْضُ مَوَالِیکَ فِی أَکْلِ الرَّبِیثَا قَالَ فَقَالَ لَا بَأْسَ بِهِ
รายงานจากฮะซัน อัซซอฟฟาร จากมุฮัมหมัดบินอีซา บินอุบัยด์ จากยูนุซบินอับดุลเราะห์มาน จากอะบีฮะซัน (อ) กล่าวว่า “ฉันได้ถามท่านอิม่ามมูซาอัลกาซิม(อ)เกี่ยวกับฮุก่มของกุ้ง ท่านตอบว่า ไม่เป็นไร(อนุมัติทานได้) กุ้งเป็นสัตว์น้ำในประเภทเดียวกับปลาที่มีเกล็ด...”
(หนังสือ วะซาอิลุซชีอะห์ 24/141)
สรุป
จากโองการในพระคัมภีร์อัลกุรอานและตัวบทฮาดิษจากท่านอิม่ามมะอฺซูม(อ)ที่นำมากล่าวข้างต้นบรรดาฟุกอฮาอฺผู้วินิจฉัยเกี่ยวกับข้อบัญญัติและหลักปฏิบัติในอิสลาม ซึ่งเป็นคำตอบ ไขข้อสงสัยข้างต้นสรุปได้ดังนี้
- แม้ว่าโองการในพระคัมภีร์อัลกุรอานกล่าวไว้เป็นวงกว้างโดยไม่ได้จำกัดประเภทของสัตว์น้ำที่อนุมัติหรือไม่อนุมัติ ทว่าบรรดาอิหม่ามมะอฺซูม(อ)ก็ได้กล่าวถึงรายละเอียดและอธิบายฮุก่มเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ชัดเจน
- แม้ว่าในโองการพระคัมภีร์อัลกุรอานหรือบทฮาดิษจะไม่มีกล่าวถึงสัตว์น้ำประเภทอื่นเช่น ปู หอย ปลาหมึก หรืออื่นๆเอาไว้ว่าเป็นสัตว์น้ำต้องห้ามสำหรับเป็นอาหาร ทว่าเป็นการเพียงพอแล้วกับฮาดิษที่มีกล่าวไว้เป็นบรรทัดฐานเกี่ยวกับสิ่งที่อนุมัติให้นำมาเป็นอาหารดังที่หยิบยกมาอ้างอิงข้างต้น
- สัตว์น้ำที่อนุมัติเป็นอาหารได้นั้นจะต้องเป็นประเภทปลาเพียงเท่านั้น
- ประเภทของปลาที่อนุมัติเป็นอาหารจะต้องเป็นปลาที่มีเกล็ดเพียงเท่านั้น.
- ฮาดิษไม่ได้กล่าวถึงประเภทของเกล็ดที่มีอยู่บนตัวปลา ฉะนั้นปลาทุกชนิดที่มีเกล็ดถือเป็นที่อนุมัติ.
ฮุก่มของสัตว์น้ำในทัศนะของฟุกอฮาอฺชีอะห์
ท่านอิม่ามโคมัยนีย์ (ร.ฎ) กล่าวว่า “ไม่มีสัตว์น้ำ(ปลา)ชนิดใดเป็นที่อนุมัติสำหรับเป็นอาหารยกเว้นมันจะต้องมีเกล็ดเพียงเท่านั้น ส่วนปลาบางชนิดซึ่งเคยมีเกล็ดโดยธรรมชาติแต่ด้วยกับการผันเปลี่ยนของสภาพแวดล้อมเป็นเหตุให้มันไม่มีเกล็ด ปลาดังกล่าวให้ถือฮุก่มว่าเป็นสัตว์น้ำประเทภมีเกล็ด”
ท่านอิม่ามโคมัยนีย์(ร.ฎ)ยังได้กล่าวเกี่ยวกับกุ้งด้วยว่า “กุ้งเป็นสัตว์น้ำประเทภเดียวกับสัตว์ที่มีเกล็ดการนำมันมาเป็นอาหารถือเป็นที่อนุมัติ ส่วนไข่ของปลาคาเวียฮุก่มของมันเป็นที่อนุมัติหรือไม่นั้นให้ดูฮุก่มไปที่ตัวของปลาดังกล่าว (กล่าวคือถ้าปลาคาเวียร์เป็นปลาประเภทที่มีเกล็ดไข่ของมันก็ถือเป็นที่อนุมัติมิเช่นนั้นก็ถือว่าไม่”(หนังสือ ตะรีรุ้ลวะซีละห์ 3 หมวดอาหารการกินและเครื่องดื่ม)
ท่านอยาฯซัยยิด อลี คาเมเนอีย์กล่าวว่า “ปลาที่มีเกล็ดซึ่งสามารถมองเห็นมันด้วยตาเปล่าชัดเจนหรือต้องใช้เครื่องมือเช่นแว่นขยายหรือผ่านการรับการรับรองจากผู้เชียวชาญว่ามันเป็นประเภทปลาที่มีเกล็ด ปลาดังกล่าวก็ถือเป็นที่อนุมัติสำหรับการเป็นอาหาร” (วารสาร ฟัรแฮ้งญิฮาด (فرهنگ جهاد) ปีที่ 1 เล่ม 2 บทความว่าด้วยเรื่องอาหารการกินเกี่ยวกับสัตว์น้ำ เขียนโดย มุฮัมหมัด บาเกร ลิยากอตีย์)
ท่านอยาฯซัยยิด อลี อัลซิซตานีย์ “ปลาที่มีเกล็ดปรากฏชัดเจนหรือมีเกล็ดโดยธรรมชาติแต่ด้วยสภาวะแวดล้อมเป็นเหตุให้มันเปลีอยเกล็ดถือฮุก่มเป็นที่อนุมัติสำหรับเป็นอาหาร ทั้งนี้ปลาดังกล่าวจะต้องนำขึ้นจากน้ำในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่หรือตายในน้ำด้วยเครื่องมือจับปลาของชาวประมงเพียงเท่านั้น”
ฮุก่มของสัตว์น้ำในทัศนะของฟุกอฮาอฺอะห์ลิซุนนะห์
ทัศนะของอะห์ลิซุนนะห์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 นำโดยนักวิชาการจากสำนักคิด(มัศฮับ)ฮานะฟีย์กล่าวว่า “สัตว์น้ำทุกประเภทถือฮุก่มเป็นที่ต้องห้าม(ไม่อนุมัติให้นำมาปรุงแต่งเป็นอาหาร) ยกเว้นประเภทปลาเพียงเท่านั้น(ซึ่งไม่จำกัดว่าปลาจะต้องมีเกล็ดหรือไม่มีเกล็ด)
กลุ่มที่ 2 นำโดยนักวิชาการจากสำนักคิด(มัศฮับ)ชาฟีอี ฮัมบาลีย์ และมาลิกีซึ่งเห็นพ้องต้องกันว่า “สัตว์น้ำทุกประเภทเช่นกุ้ง หอย ปู ปลา(ทุกชนิด)รวมถึงแมวน้ำและปลาพะยูนเป็นที่อนุมัติสำหรับเป็นอาหาร.